kitty เฮลโลคิตตี คือตัวละครที่สร้างโดยบริษัทซานริโอ้ ประเทศญี่ปุ่น ออกแบบครั้งแรกโดยคุณยูโกะ ชิมิซุ โดยเธอวาดออกมาเป็นภาพแมวญี่ปุ่นหางสั้น เพศเมีย สีขาว ที่ติดโบว์สีแดง เฮลโลคิตตีปรากฏตัวครั้งแรกในรายการ “A vinyl coin purse” เป็นที่รู้จักในประเทศญี่ปุ่นในปี 1974 และถูกนำไปออกอากาศที่สหรัฐอเมริกาในปี 1976 Pokemon
โดยมีบุคลิกที่แสดงออกถึงความน่ารักของวัฒนธรรมที่เป็นที่นิยมของญี่ปุ่น ในปี 2010 ที่เฮลโลคิตตีที่มีอายุครบ 36 ปี บริษัทซานริโอได้สร้างให้ตัวละครนี้เป็นปรากฏการณ์การตลาดระดับโลกที่มีมูลค่าถึง ห้าพันล้านดอลล่าร์ และต่อมาในปี 2014 เมื่อเฮลโลคิตตีมีอายุ 40 ปี ก็สามารถสร้างมูลค่าตลาดได้ถึงเจ็ดพันล้านดอลลาร์ โดยไม่ต้องมีการโฆษณาใด ๆ[
จากเป้าหมายเดิมที่มุ่งเน้นลูกค้าในกลุ่มก่อนวัยรุ่น ตลาดของเฮลโลคิตตี ได้ขยายไปสู่ผู้บริโภคที่เป็นผู้ใหญ่ เราสามารถพบผลิตภัณฑ์ของเฮลโลคิตตีได้ในรูปแบบที่หลากหลาย ตั้งแต่อุปกรณ์การเรียน เครื่องประดับแฟชั่น จนถึงสินค้าราคาแพง ๆ และคิตตีถูกสร้างเป็น ละครทีวีเฮลโลคิตตี สำหรับเด็กอีกหลายตอน นอกจากนั้นยังเป็น ตัวละครหลักของสวนสนุกซานริโอ้ 2 แห่งในญี่ปุ่น ได้แก่ ฮาร์โมนีแลนด์ และสวนสนุกในร่ม ซานริโอ้ พูโรแลนด์ อีกด้วย
ประวัติผู้ออกแบบ Hello Kitty
ยูโกะ ชิมิซุ นักออกแบบรุ่นแรกของคิตตีจนถึงปี 2010 ในปี 1962 ชินทาโร ซูจิ ผู้ก่อตั้งซานริโอ้ เริ่มขายรองเท้าแตะยางพิมพ์ลายดอกไม้ ซูจิสังเกตเห็นว่าสามารถเพิ่มผลกำไรให้มากขึ้น ด้วยการเพิ่มการออกแบบที่น่ารักบนรองเท้าแตะ จึงจ้างให้นักเขียนการ์ตูน การออกแบบตัวละครที่น่ารักสำหรับสินค้าของเขา บริษัทได้ผลิตสินค้าโดยมีลายรูปตัวละครเพื่อเป็นของขวัญในโอกาสต่าง ๆ เฮลโล โหลคิตตีได้รับการออกแบบโดย ยูโกะ ชิมิซุ และถูกบันทึกอยู่ในตัวละครหลักของซานริโอ้ ในต้นปี 1974 ภาพของการปรากฏตัวครั้งแรกในรายการ “A vinyl coin purse” ในประเทศญี่ปุ่น เป็นภาพที่คิตตีนั่งอยู่ระหว่างขวดนมและชามปลาทอง และปรากฏตัวครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 1976
บริษัทตัดสินใจที่จะสร้างให้เฮลโลคิตตีเกิดใน ประเทศอังกฤษ เพราะในช่วงเวลาที่คิตตีถูกสร้างขึ้นมา อะไรก็ตามที่มาจากต่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศอังกฤษให้ความรู้สึกทันสมัยมาก สำหรับคนญี่ปุ่น นอกจากนี้ ซานริโอ้ก็มีตัวละครอื่น ๆ ที่เกิดในสหรัฐอยู่แล้ว พวกเขาจึงต้องการสร้างให้คิตตีมีความแตกต่างออกไป ชิมิซุ ได้ชื่อคิตตี จากนิยายชื่อมองผ่านกระจก ของ ลูอิส แครอล ที่อยู่ในตอนต้นของหนังสือ ที่อลิซเล่นกับแมวของเธอที่ชื่อ คิตตี คำขวัญซานริโอ้ คือ “การสื่อสารในสังคม” และซูจิอยากตั้งชื่อของแมวที่จะสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งนั้น ครั้งแรกที่เขาคิดว่า “ไฮ คิตตี” ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ “เฮลโล”
ซึ่งสื่อถึงคำอวยพรได้ด้วย ตัวแทนประชาสัมพันธ์ของบริษัทได้อธิบายว่าคิตตีไม่มีปากเพราะพวกเขาต้องการให้ผู้คนมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครและมีความสุข หรือเศร้าร่วมไปกับคิตตี อีกอย่างหนึ่งที่อธิบายได้ว่าทำไมคิตตีไม่มีปากคือการที่เธอ” พูดออกมาจากหัวใจ” คิตตีเป็นเหมือนกับทูตของซานริโอ้สู่ทั่วโลกและไม่ได้ยึดติดกับภาษาใดโดยเฉพาะ “บริษัทมองเห็นคิตตีเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพและพวกเขาหวังว่าเธอจะส่งเสริมมิตรภาพระหว่างผู้คนทั่วโลก มีบางคนให้ข้อสังเกต ว่าเฮลโลคิตตีมีต้นกำเนิดมาจากแมวกวักของญี่ปุ่น (มะเนะกิเนะโกะ) ซึ่งชื่อคิตตีเองก็มีที่มาจากแมวกวัก ซึ่งหมายถึงการกวักมือเรียกแมวในภาษาอังกฤษ
ประวัติ Hello Kitty
หลังจากที่เปิดตัวปี 1974 เฮลโลคิตตี ก็ขายดีในทันที และ ส่งผลให้ยอดขายรวมของซานริโอ้เพิ่มขึ้นถึงเจ็ดเท่าหลังจากที่เผชิญกับภาวะยอดขายตกต่ำในปี 1978 มีคอลเลคชั่นคิตตีที่ออกแบบแปลก ๆ ใหม่ ๆ วางจำหน่ายสู่ท้องตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับความเป็นไปในสังคมในช่วงเวลานั้น ทั้งนี้ ยูโกะ ยามากูชิ ซึ่งเป็นนักออกแบบหลักของเฮลโลคิตตี ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันกล่าวว่า เธอได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบคิตตี รุ่นใหม่ ๆ จากแฟชั่น, ภาพยนตร์และโทรทัศน์
ในช่วงแรกคิตตีเน้นการทำตลาดเฉพาะเด็กผู้หญิงเท่านั้น แต่ตั้งแต่ปี 1990 กลุ่มเป้าหมายสำหรับคิตตีได้ขยายออกไปยังกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่ในฐานะที่เป็นแบรนด์ย้อนยุค ทั้งนี้ซานริโอ้เริ่มมีการออกแบบผลิตภัณฑ์คิตตีสำหรับผู้ใหญ่มากขึ้น เช่นกระเป๋าและแล็ปท็อป เพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มนี้เป็นพิเศษ ในปี 1994-1996 มีการวางจำหน่าย เฮลโลคิตตี รุ่นคิตตี เฟซ ซึ่งเน้นการออกแบบสินค้าเพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
ซานริโอ้ กล่าวว่า ในปี 1999 มีคิตตีรุ่นใหม่ ๆ ออกวางจำหน่ายถึง 12,000 แบบต่อปี ทั้งนี้ในปี 2008 สามารถทำรายได้กว่าหนึ่งร้อยล้านดอลล่าร์ ซึ่งมากถึงครึ่งหนึ่งของรายได้รวมของซานริโอ้ทั้งบริษัท ทั้งนี้คิตตีมีวางจำหน่ายมากกว่า 50,000 แบบในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา ด้วยแนวโน้มแฟชั่นในญี่ปุ่น ส่งผลให้บริษัทเริ่มใช้สีเข้ม ลดสีชมพู และใช้การออกแบบที่มีรูปแบบที่น่ารักน้อยลงในการออกแบบคิตตีรุ่นใหม่ ๆ
สินค้า Hello Kitty
แรกเริ่มเดิมทีที่กลุ่มเป้าหมายหลักของเฮลโลคิตตี ยังคงเป็นเด็กหญิงอยู่นั้น สินค้าที่ผลิตออกมายังเป็นพวกตุ๊กตา, สติ๊กเกอร์, การ์ดอวยพร, เสื้อผ้า, ของใช้กระจุกกระจิก, เครื่องเขียน และกระเป๋าใส่เครื่องเขียน แต่หลังจากที่มีการขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่ ก็มีการวางจำหน่ายสินค้าประเภท เครื่องปิ้งขนมปัง, โทรทัศน์, เครื่องใช้ในบ้าน, อุปกรณ์นวด และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โดยลักษณะของผลิตภัณฑ์มีตั้งแต่สินค้าทั่วไป, สินค้าราคาสูง และสินค้าประเภทของสะสมหายาก
เครื่องประดับ
ในฤดูใบไม้ผลิปี 2005 บริษัทซิมมอนส์ จิวเวลรี่และ ซานริโอ้ได้ประกาศความร่วมมือออกแบบเครื่องประดับร่วมกัน “คิโมรา ลี ซิมมอนส์ สำหรับเฮลโลคิตตี” ที่เปิดตัวเฉพาะห้างไนแมน มาร์คัส ในราคาตั้งแต่ 300 ถึง 5,000 ดอลลาร์ ออกแบบโดย คิโมรา ลี ซิมมอนส์ และเปิดตัวเป็นคอลเลกชันแรก เป็นเครื่องประดับทั้งหมดทำด้วยมือซึ่งประกอบด้วยเพชร,อัญมณีและหินมีค่า, ทอง 18K,เงินสเตอร์ลิง,เครื่องประดับลงยาและเซรามิก
ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2008 ซิมมอนส์ จิวเวลรี่และซานริโอ้ ได้ออกเครื่องประดับและนาฬิกาในคอลเลกชัน “เฮลโลคิตตี®โดยซิมมอนส์ จิวเวลรี่” ซึ่งคอลเลกชันดังกล่าวร่วมมือกับ เซลส์ คอร์ปอร์เรชั่น เพื่อขยายการเข้าถึงของแบรนด์และการพัฒนาเครื่องประดับเพื่อตอบสนองความพึงพอใจของแฟนคิตตีทุกระดับ การออกแบบใช้การรวมอัญมณีหลากสีสันและเงินสเตอร์ลิงที่สามารถดึงดูดใจลูกค้าวัยรุ่นด้วยราคาขายปลีกเริ่มต้นที่ 50 ดอลลาร์
12 เรื่องจริง Hello Kitty ที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน
Hello Kitty การ์ตูนคาแรคเตอร์ที่โด่งดังและอมตะที่สุดในค่าย Sanrio เจ้าแมว เอ้ย! เด็กผู้หญิงที่คนเข้าใจกันมาตลอดว่าคือแมว ก่อนจะกลายมาเป็นประเด็นฮ็อตในโลกออนไลน์เมื่อไม่นานมานี้ว่า คิตตี้เป็นเด็กผู้หญิงไม่ใช่แมว สร้างความฉงนให้หลายคนไม่น้อย เชื่อว่าหลายคนไม่เคยดูการ์ตูนคิตตี้ผ่านจอโทรทัศน์มาก่อน แต่ทำไมใครๆก็รู้จักคิตตี้ลายเส้นง่ายๆที่ครองใจคนมาแล้วทั่วโลกนี้มาจากฝีมือของ Yuko Yamaguchi ผู้ทำให้ คิตตี้ มีตัวตนอยู่ในโลกความจริง
คิตตี้ปรากฎตัวครั้งแรกบนกระเป๋าสตางค์ที่วางจำหน่ายในญี่ปุ่นเมื่อปี 1971 และปีถัดมาจึงเริ่มหาซื้อได้ในสหรัฐอเมริกา แม้จะเป็นตัวการ์ตูน แต่ก็ไม่ได้ครองตลาดแค่เฉพาะสินค้าเด็ก Hello Kitty ปรากฎตัวอยู่ในผลิตภัณฑ์มากมายบนโลก ไม่เว้นแม้แต่ เพลง โรงพยาบาล หรือสายการบิน อาจเรียกได้ว่า Hello Kitty เป็น pop culture ที่แข็งแรงมากๆ และยังเป็นแบรนด์การ์ตูนที่มีมูลค่ามหาศาลในตลาดโลกอีกด้วย วันนี้เราจึงนำ facts ของความยิ่งใหญ่ที่แสนน่ารักจาก Hello Kitty มาฝากให้ได้อ่านกันเพลินๆ
1. ชื่อเต็มๆไม่ใช่ Hello Kitty
คิตตี้มีชื่อและนามสกุลจริงว่า Kitty White แต่ในช่วงสองปีแรกที่คิตตี้ถูกสร้างขึ้น เธอกลับเป็นที่รู้จักในนามของ “the white cat with no name” หรือ แมวขาวไร้ชื่อ
2. ความสูงของคิตตี้
คิตตี้มีความสูงเท่ากับแอปเปิ้ล 5 ผล และมีน้ำหนักเท่ากับแอปเปิ้ล 3 ผล , หมู่เลือด A
3. อายุคิตตี้
ถ้านับตามอายุจริง คิตตี้มีอายุ 41 ปีแล้ว เพราะเธอเกิดวันที่ 1 พฤศจิกายน 1974
4. ครอบครัวคิตตี้มีทั้งหมด 6 สมาชิก
- George คุณพ่อผู้ทำงานทุ่มเทกับงาน แต่กระนั้นเขาก็ยังมีเวลาสำหรับลูกๆเสมอ และยังมีมนุษยสัมพันธ์ดีเยี่ยมอีกด้วย
- Mary คุณแม่ผู้รักในการทำอาหาร ดูแลงานบ้านไม่เคยขาด เธอใส่ใจทุกคนในบ้านเสมอ และมักจะอบพายแอปเปิ้ลไปฝากเพื่อนบ้านอีกด้วย
- Anthony คุณตายอดศิลปินผู้ถนัดในงานพู่กัน ด้วยประสบการณ์ชีวิตมากมายที่เขาผ่านมา เขาจึงมักจะมีเรื่องน่าสนุกและเป็นข้อคิดมาเล่าให้เด็กๆฟังเสมอ
- Margaret คุณยายผู้เป็นต้นแบบในฝีมือการอบขนม และพุดดิ้งของคุณยายก็อร่อยจนไม่อาจปฏิเสธได้ แต่งานอดิเรกของคุณยายคือการเย็บปักถักร้อย เธอสามารถใช้เวลาทั้งวันกับการถักไหมพรมบนเก้าอี้โยกเยกตัวโปรด
- Mimmy น้องสาวฝาแฝดและเพื่อนที่ดีที่สุดของคิตตี้ ทั้งคู่สนิทกันและใช้เวลาร่วมกันอย่างไม่เคยห่าง
- Kitty เด็กหญิงแสนร่าเริงและมองโลกในแง่ดีเสมอ เธอชอบฟังเพลง กินขนม และทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่
5. ความชอบและงานอดิเรกของคิตตี้
คิตตี้เป็นเด็กสาวที่มีเพื่อนมากมาย เพราะเธอมักชอบทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่อยู่เสมอ ส่วนงานอดิเรกของเธอก็มีหลากหลาย เช่น อบคุกกี้และทำแพนเค้ก, พับ origami, ศึกษาวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ, สะสมริบบิ้นและสิ่งของน่ารักชิ้นเล็กๆ เรื่องดนตรีเธอชอบเล่นเปียโน ส่วนกีฬา ชอบตีเทนนิส, ชอบเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ดนตรี และศิลปะ, สีโปรดประจำตัวคือสีแดง และแน่นอนอาหารที่โปรดปรานมากที่สุดคือพายแอปเปิ้ลฝีมือคุณแม่
6. บ้านเกิดของคิตตี้
แม้ Hello Kitty จะเป็นตัวการ์ตูนคาแรคเตอร์ของบริษัทญี่ปุ่น แต่ตามท้องเรื่องเธอเป็นชาวอังกฤษ และเกิดในกรุงลอนดอน
7. คิตตี้มีสัตว์เลี้ยงเป็นแมว
เป็นเรื่องที่น่าประหลาดและเป็นสิ่งที่ย้ำชัดว่าคิตตี้ไม่ใช่แมว เพราะเธอมีสัตว์เลี้ยงเป็นแมวชื่อว่า Chammy คิตตี้ได้ลูกแมวตัวนี้มาจากพ่อของเธอในวันเกิด ชาร์มมี่เป็นลูกแมวที่ชอบของเล็กๆ ที่มีประกายแวววาว
8. ผองเพื่อนของคิตตี้
จากซ้ายไปขวา
- Jodie เป็นเด็กเรียนและชอบอ่านหนังสือ ความใฝ่ฝันของเธอคือการได้เป็นนักวิจัยเมื่อเติบโตขึ้น
- Mimmy น้องสาวฝาแฝดของคิตตี้
- Tracy แรคคูนน้อยผู้เป็นเพื่อนตัวฮาในกลุ่ม แม้เทรซี่จะเป็นเด็กที่ชอบเล่นซุกซน แต่ใครๆก็รักเธอเพราะเธอชอบสร้างเสียงหัวเราะให้เพื่อนๆ
- Joey หนูน้อยยอดนักกีฬา เขาเป็นเพื่อนผู้เก่งกาจในกีฬาหลายประเภท ทั้งยังเฉลียวฉลาด มีสเน่ห์ และป็อปปูล่าที่สุดในโรงเรียน
- Tippy เป็นหมีที่แสนสุภาพและเข้มแข็ง ในยามที่เพื่อนๆเดือดร้อนเขามักจะเป็นคนแรกเสมอที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือ ความลับคือ เขาแอบชอบคิตตี้
- Fifi เป็นเพื่อนที่มีกิจกกรมต่างๆทำอยู่เสมอ มักจะเห็นเธอเดินไปเดินมาทำนู่นทำนี่ตลอด
- Timmy and Tammy ลิงน้อยสองพี่น้องที่แสนซุกซนเป็นที่รักของเพื่อนๆ เพราะทั้งคู่ชอบเล่นและแสดงท่าทางตลกสนุกสนานให้เพื่อนๆได้หัวเราะอยู่เสมอ
- Thomas เป็นหมีที่แอคทีฟตลอดเวลา และรักการเล่น roller skate เป็นชีวิตจิตใจ
- Rory เพื่อนที่คิตตี้บังเอิญไปพบเข้าในป่าระหว่างที่เธอกำลังเก็บดอกไม้ โลลี่เป็นกระรอกที่อาศัยอยู่ในป่า เขาจึงสอนวิชาและเคล็ดลับต่างๆมากมายเกี่ยวกับป่าให้แก่คิตตี้
- Mori ตัวตุ่นน้อยน่ารักที่อาศัยอยู่ในสนามหญ้าที่บ้านคิตตี้ งานอดิเรกของเธอคือการอาบแดด
9. ทำไมคิดตี้ถึงไม่มีปาก
อันที่จริงยังไม่มีคำตอบอย่างเป็นทางการจาก Sanrio ว่าเหตุใดคิตตี้ถึงไม่มีปาก แต่ Yuko Yamaguchi ผู้ออกแบบคิตตี้ได้ให้สัมภาษณ์กับ Time Magazine ว่าเหตุที่คิตตี้ไม่มี ปาก ปรากฎอยู่บนใบหน้าเพราะไม่ต้องการให้คิตตี้ถูกตีความทางอารมณ์จากสีหน้า เธออยากให้คิตตี้สื่ออารมณ์ไปตามความรู้สึกของผู้พบเห็น เรามีความสุขคิตตี้ก็มีความสุข เราเศร้าคิตตี้ก็เศร้า อันที่จริงนอกจากปากแล้ว คิ้วก็สื่ออารมณ์ได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นคิตตี้จึงถูกออกแบบมาอย่างตั้งใจให้ไม่มีปากและคิ้ว
10.สัตว์เลี้ยงอีกตัวของคิตตี้เป็นหนูแฮมสเตอร์
นอกจากจะเลี้ยงแมวเหมียว Charmmy แล้ว คิตตี้ยังมีสัตว์เลี้ยงอีกตัวเป็นหนูแฮมสเตอร์ มีชื่อว่า Sugar เป็นสัตว์เลี้ยงที่เพื่อนของเธอในวัยเด็กได้ให้เอาไว้ และสัตว์เลี้ยงทั้งสองของเธอยังเป็นเพื่อนรักกันอีกด้วย
11. Dear Daniel เด็กหนุ่มผู้กุมหัวใจคิตตี้
Dear Daniel เกิดวันที่ 3 พฤษภาคม เขาอายุเท่ากันกับคิตตี้ เป็นเด็กหนุ่มที่เป็นความทรงจำที่ยอดเยี่ยมในวัยเด็ก เขาติดตามพ่อแม่เดินทางท่องไปยังที่ต่างๆในโลก นั่นจึงทำให้เขาไม่ได้พบกับคิตตี้เป็นเวลานาน แดเนียล เป็นเด็กหนุ่มมีสไตล์ในเรื่องแฟชั่น เขาถนัดเต้นรำ เล่นเปียโน และสนใจในการถ่ายภาพ เขาใฝ่ฝันอยากจะเป็น celebrity ที่มีชื่อเสียง แม้ว่าเขาจะไม่ได้พบกับคิตตี้เป็นเวลนาน แต่เขาได้มอบเจ้าหนูแฮมสเตอร์ ชูการ์ ให้เป็นสัตว์เลี้ยงของคิตตี้ก่อนออกเดินทาง ศัตรูหัวใจของเขาคือ Tippy หมีหนุ่มแสนสุภาพและเข้มแข็ง
12. Hello Kitty กับมูลค่ามหาศาลในตลาดโลก
ในปี 2010 มูลค่ารวมของ Hello Kitty ในตลาดโลกอยู่ที่ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และโดดขึ้นมาเป็น 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2014 และเป็นมูลค่าที่เติบโตโดยปราศจากการโฆษณาใดๆทั้งปวง
anime ใหม่มาแรง รวบรวมการ์ตูนที่มาแรงที่สุดในปี 2020 ใว้กับเราที่นี่
หาเงินออนไลน์ได้ง่ายๆ แค่คลิก : PG SLOT
อนิเมะใหม่
